สารบัญ Sculptra
Sculptra คืออะไร?
Sculptra เป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในรูปแบบการฉีดที่ประกอบด้วย Poly-L-Lactic acid (PLLA) ซึ่งเป็นหนึ่งใน Biostimulator หรือสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ช่วยกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนใหม่ได้ถึง 66.5% Sculptra มีคุณสมบัติในการเติมเต็ม ยกกระชับใบหน้า และฟื้นฟูผิวให้ดูอิ่มฟูและยืดหยุ่นยิ่งขึ้น ผลลัพธ์จากการใช้ Sculptra สามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี
Sculptra เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนตามธรรมชาติตัวแรกของโลก (The First & Original Collagen Biostimulator) ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง มีการใช้งานทางการแพทย์มาตั้งแต่ปี 1999 และมีการวิจัยสนับสนุนมากกว่า 50 ฉบับ รวมถึงได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (US FDA) ซึ่งทำให้มั่นใจในความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
Sculptra ผลิตและพัฒนาโดยบริษัท Galderma Laboratories, L.P. โดยอนุภาค PLLA ของ Sculptra ใช้กระบวนการผลิตที่ได้รับสิทธิบัตรเฉพาะจากบริษัท Galderma ซึ่งได้สร้างอนุภาค PLLA-SCA ที่สามารถฉีดเข้าชั้นผิวได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
คอลลาเจน (Collagen) คืออะไร?
คอลลาเจน (Collagen) เป็นโปรตีนที่ร่างกายสังเคราะห์ขึ้น ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนัง, กล้ามเนื้อ, เส้นเอ็น และเนื้อเยื่อเกี่ยวพันอื่นๆ นอกจากนี้ยังพบได้ในเส้นเลือด, อวัยวะ, และเยื่อบุลำไส้ คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่มีปริมาณมากที่สุดในร่างกาย โดยคิดเป็นประมาณ 30% ของจำนวนโปรตีนทั้งหมดในร่างกาย
ประโยชน์ของคอลลาเจน (Collagen)
เพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของผิว ช่วยให้ผิวดูเต่งตึงและยืดหยุ่น
ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลล์ ช่วยในการฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์
ช่วยการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูสดใสและเรียบเนียน
ช่วยในการแข็งตัวของเลือด ป้องกันการเสียเลือดมากเกินไป
ปกป้องอวัยวะภายใน ส่งเสริมความแข็งแรงของเนื้อเยื่อ
ชนิดของคอลลาเจน
ปัจจุบันมีการจำแนกคอลลาเจนออกเป็น 28 ชนิด ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 5 ประเภทหลักๆ ได้แก่
ประเภทที่ 1 พบได้ประมาณ 90% ของคอลลาเจนในร่างกาย เป็นส่วนสำคัญของกระดูก, ผิวพรรณ, และเส้นเอ็น
ประเภทที่ 2 พบในกระดูกอ่อนยืดหยุ่น (elastic cartilage) ช่วยบำรุงไขข้อ
ประเภทที่ 3 พบในกล้ามเนื้อ, อวัยวะ, และหลอดเลือดแดง
ประเภทที่ 4 พบในชั้นผิวหนัง
ประเภทที่ 5 พบในกระจกตา, รกเด็ก, โครงสร้างของเส้นผม และชั้นผิวหนัง
การลดลงของคอลลาเจนเมื่ออายุมากขึ้น
คอลลาเจนในร่างกายมีแนวโน้มลดลงเมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะหลังอายุ 60 ปี หรือในช่วงวัยหมดประจำเดือนของผู้หญิง การลดลงของคอลลาเจนทำให้คอลลาเจนมีคุณภาพลดลงและสลายตัวเร็วขึ้น
สัญญาณที่บ่งบอกว่าคอลลาเจนลดลง
สัญญาณที่บ่งบอกว่าคอลลาเจนในร่างกายลดลง ได้แก่
ริ้วรอยและผิวหย่อนคล้อย ผิวหนังมีลักษณะไม่เรียบเนียนและเริ่มมีริ้วรอย
ผิวหนังรอบดวงตาและแก้มตอบ มีลักษณะของผิวที่ตอบหรือหย่อนคล้อย
ปวดกล้ามเนื้อ รู้สึกเจ็บหรือไม่สบายในกล้ามเนื้อ
กล้ามเนื้อฝ่อและอ่อนแรง กล้ามเนื้อเริ่มมีความแข็งแรงลดลง
เอ็นมีความยืดหยุ่นน้อยลง ข้อหรือเส้นเอ็นเคลื่อนไหวได้ยากขึ้น
โรคข้อกระดูกอ่อนเสื่อม (Osteoarthritis) กระดูกอ่อนเสื่อมสภาพและทำให้เกิดอาการปวดข้อ
เคลื่อนไหวได้ยาก ข้อมีความแข็งหรือเสียหายทำให้เคลื่อนไหวได้ลำบาก
ปัญหาเกี่ยวกับการไหลเวียนโลหิต อาจมีอาการเกี่ยวกับระบบหมุนเวียนเลือด
ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เยื่อบุทางเดินอาหารอาจบางลง ส่งผลให้เกิดปัญหาในการย่อยอาหาร
กลไกการทำงานของ Sculptra
การฉีดและผลลัพธ์ Sculptra จะถูกผสมกับ Sterile water ก่อนนำไปฉีดเข้าสู่ชั้นผิวหนัง (Subcutaneous) ในช่วง 2-3 วันแรก ผิวที่ฉีดจะดูเต็มอิ่มและฟูทันทีจากโมเลกุลน้ำที่ฉีดเข้าไป หลังจากนั้นน้ำจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย leaving only the PLLA particles. ในช่วงนี้ อาจสังเกตเห็นร่องริ้วรอยกลับมาปรากฏ
กระบวนการกระตุ้นคอลลาเจน Sculptra จะเริ่มกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนผ่านระบบภูมิคุ้มกัน โดยกระตุ้นให้เซลล์ Fibroblast ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างเส้นใยคอลลาเจนเข้ามารวมตัวและเพิ่มจำนวน การสร้างคอลลาเจนจะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด งานวิจัยพบว่า Sculptra สามารถเพิ่มการสร้างคอลลาเจนได้มากถึง 66.5% ทำให้ผิวที่ฉีดมีความกระชับและอิ่มฟูขึ้น โครงสร้างของชั้นผิวจึงแข็งแรงยิ่งขึ้น
การสลายตัวของ Sculptra เมื่อเวลาผ่านไป Sculptra จะค่อยๆ สลายตัวไป แต่เส้นใยคอลลาเจนที่ร่างกายสร้างขึ้นจะยังคงอยู่ ทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรงและยกกระชับ ผลลัพธ์จากการรักษาจะคงอยู่ประมาณ 2 ปี
ดังนั้น Sculptra จึงเป็นวิธีการที่ช่วยฟื้นฟูและยกกระชับผิวโดยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว
Sculptra กับ ฟิลเลอร์ แตกต่างกันอย่างไร?
Sculptra กับฟิลเลอร์ (Fillers) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการเสริมความงามและการฟื้นฟูผิว แต่มีวิธีการทำงานและผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ดังนี้
1. ส่วนประกอบและกลไกการทำงาน
Sculptra
ส่วนประกอบ ประกอบด้วย Poly-L-Lactic Acid (PLLA), ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง
กลไกการทำงาน Sculptra กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนจากภายใน โดยการกระตุ้นเซลล์ Fibroblast ที่ทำหน้าที่สร้างเส้นใยคอลลาเจน การสร้างคอลลาเจนจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังการฉีด ทำให้ผิวกระชับและอิ่มฟูขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ฟิลเลอร์
ส่วนประกอบ ฟิลเลอร์มีหลายชนิด เช่น ไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid), คอลลาเจน, แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทท์ (Calcium Hydroxylapatite) และอื่นๆ
กลไกการทำงาน ฟิลเลอร์ทำงานโดยการเติมเต็มปริมาตรในชั้นผิวหนังอย่างทันทีทันใด เมื่อฉีดเข้าไปจะเติมเต็มริ้วรอยหรือพื้นที่ที่ต้องการให้เต็มและอิ่มฟู ซึ่งผลลัพธ์จะเห็นได้ทันที
2. ผลลัพธ์และระยะเวลาที่เห็นผล
Sculptra
ผลลัพธ์ การสร้างคอลลาเจนจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นในช่วงเวลาหลายเดือน ผลลัพธ์จะไม่เห็นทันที แต่จะเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ระยะเวลาที่เห็นผล ปกติจะต้องทำการฉีดหลายครั้งและผลลัพธ์จะค่อยๆ ปรากฏภายใน 3-6 เดือน หลังการฉีด ผิวจะค่อยๆ กระชับและอิ่มฟูขึ้น ผลลัพธ์สามารถคงอยู่ได้นานถึง 2 ปี
ฟิลเลอร์
ผลลัพธ์ ผลลัพธ์จะเห็นได้ทันทีหลังการฉีด โดยจะเติมเต็มริ้วรอยและพื้นที่ที่ต้องการให้เต็ม
ระยะเวลาที่เห็นผล ผลลัพธ์สามารถเห็นได้ทันทีหลังการฉีด และสามารถคงอยู่ได้นานจาก 6 เดือนถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับประเภทของฟิลเลอร์ที่ใช้
3. การสลายตัวและการคงผลลัพธ์
Sculptra
การสลายตัว Sculptra จะค่อยๆ สลายตัวไป แต่คอลลาเจนที่สร้างขึ้นจะยังคงอยู่
การคงผลลัพธ์ ต้องทำการฉีดซ้ำตามที่แพทย์แนะนำเพื่อคงผลลัพธ์ที่ต้องการ
ฟิลเลอร์
การสลายตัว ฟิลเลอร์จะค่อยๆ สลายตัวตามธรรมชาติของสารที่ใช้และระยะเวลาของการใช้งาน
การคงผลลัพธ์ อาจต้องฉีดฟิลเลอร์ซ้ำเมื่อผลลัพธ์เริ่มลดลง
4. ความเหมาะสมในการใช้งาน
Sculptra
เหมาะสำหรับการปรับปรุงผิวที่มีการหย่อนคล้อยและการสร้างความกระชับ
ใช้เพื่อเสริมความยืดหยุ่นและความหนาแน่นของผิวหนัง
ฟิลเลอร์
เหมาะสำหรับการเติมเต็มริ้วรอยและพื้นที่ที่ต้องการความหนาแน่นทันที เช่น ริ้วรอยรอบปากและแก้มตอบ
สรุป
ทั้ง Sculptra และฟิลเลอร์มีความสามารถในการเสริมความงามและฟื้นฟูผิว แต่การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ใดขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความต้องการของแต่ละบุคคล รวมถึงคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
Sculptra เหมาะกับใคร?
Sculptra เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีความต้องการฟื้นฟูและปรับปรุงสภาพผิวในหลายด้าน ดังนี้
ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยและขาดความกระชับ เหมาะสำหรับผู้ที่ผิวหนังเริ่มมีการหย่อนคล้อยและขาดความยืดหยุ่น
ผู้ที่มีริ้วรอยชัดเจน เหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยที่เห็นได้ชัดเจน ซึ่งมักเกิดจากอายุที่มากขึ้น
ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวจากโครงสร้างภายใน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวที่ขาดการดูแลหรือมีปัญหาผิวจากการไม่ดูแลเป็นเวลานาน
ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวและผิวแน่นอิ่มฟู เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการยกกระชับและทำให้ผิวดูอิ่มฟู
ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ในระยะยาว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์จากการฉีดในระยะยาว โดยไม่ต้องกลับมาฉีดบ่อยๆ เพราะ Sculptra สามารถคงผลลัพธ์ได้ถึง 2 ปี
การเลือกใช้ Sculptra จะช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับผิวได้รับการฟื้นฟูและยกกระชับอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับผลลัพธ์ที่ยาวนาน
Sculptra ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง?
บริเวณขมับ
บริเวณหน้าแก้ม
บริเวณร่องแก้ม
บริเวณใต้โหนกแก้มด้านข้าง
บริเวณกรอบหน้า
บริเวณคาง
Sculptra ช่วยอะไรได้บ้าง?
Sculptra สามารถช่วยในหลายด้านของการฟื้นฟูผิวและการเสริมความงาม ดังนี้
ฟื้นฟูผิวชั้นลึก ช่วยปรับโครงสร้างผิวจากภายใน ทำให้ผิวแข็งแรงและมีความกระชับ
ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ช่วยยกกระชับผิวที่มีการหย่อนคล้อยให้กลับมาดูเต่งตึง
เติมเต็มริ้วรอยร่องลึก ช่วยลดริ้วรอยและร่องลึกให้ดูจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ
ลดริ้วรอยเล็ก ๆ ช่วยทำให้ผิวตึงกระชับและเรียบเนียน ลดการเกิดริ้วรอยเล็ก ๆ
เพิ่มความชุ่มชื้นและกระจ่างใส ช่วยให้ผิวดูชุ่มชื้นและมีความกระจ่างใสขึ้น
การดูแลหลังฉีด Sculptra
หลังจากฉีด Sculptra ควรดูแลตัวเองตามขั้นตอนดังนี้
นวดหน้า ปฏิบัติตามหลัก Triple 5 โดยนวดหน้าวันละ 5 ครั้ง ครั้งละ 5 นาที ติดต่อกันเป็นเวลา 5 วัน เพื่อช่วยให้ยาแพร่กระจายทั่วใบหน้า
หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า ควรงดการแต่งหน้าและการอบซาวน่า หรืออบไอน้ำในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังการฉีด รวมทั้งงดทาครีมบริเวณรอยเข็ม
ป้องกันแสงแดดและแสงยูวี หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดและแสงยูวีจนกว่าความบวมและความแดงจะหายเป็นปกติ
การทำหัตถการอื่น หากต้องการทำหัตถการอื่น ๆ บนใบหน้า แนะนำให้เว้นช่วงอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์
คำถามที่พบบ่อย
1. ฉีด Sculptra อันตรายไหม
Sculptra เป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ได้รับการใช้ตั้งแต่ปี 1999 และได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) ว่ามีความปลอดภัย ซึ่งงานวิจัยจำนวนมากได้พิสูจน์ถึงผลลัพธ์ที่ดีและประสิทธิภาพของมันอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น, Sculptra ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้อย่างปลอดภัยและไม่อันตราย ช่วยเพิ่มคอลลาเจนในชั้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. มีผลข้างเคียงไหม
หลังจากการฉีด Sculptra อาจมีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ ดังนี้
บวม อาจเกิดบวมที่บริเวณที่ฉีด ซึ่งมักจะค่อย ๆ ลดลงภายใน 2-3 วัน
ปวด อาจรู้สึกปวดหรือไม่สบายบริเวณที่ทำการฉีด
รอยแดง อาจมีรอยแดงในพื้นที่ที่ฉีด ซึ่งจะค่อย ๆ หายไปภายในระยะเวลาอันสั้น
ในบางกรณี, อาจคลำพบก้อนเล็ก ๆ ใต้ผิวหนังในช่วงแรกของการฟื้นตัว แนะนำให้นวดบริเวณที่ฉีดตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อช่วยให้ก้อนดังกล่าวค่อย ๆ หายไป
3. ฉีด Sculptra กี่วันเห็นผล
อาจเริ่มเห็นผลลัพธ์แรกเริ่มในสัปดาห์ที่ 3 และผลลัพธ์ที่ชัดเจนจะปรากฏขึ้นภายใน 3 เดือน หลังจากนั้น ผลลัพธ์จะคงอยู่ประมาณ 2 ปี หรือประมาณ 25 เดือน
4. ฉีด sculptra ต้องฉีดกี่ครั้ง
สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวไม่มาก แนะนำให้ฉีดครั้งละ 1 ขวด โดยทำการฉีดต่อเนื่องกัน 3 ครั้ง ด้วยระยะห่างครั้งละ 1 เดือน ผลลัพธ์จะคงสภาพผิวได้ประมาณ 2 ปี
สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวมาก หรือผู้ที่อายุ 30 ปีขึ้นไป แนะนำให้ฉีดครั้งละ 2 ขวด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
การปรับจำนวนขวดและจำนวนครั้งในการฉีดขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล ควรปรึกษาแพทย์เพื่อแผนการรักษาที่เหมาะสม
ข้อควรระวังและข้อห้ามในการฉีด Sculptra
ข้อควรระวัง
ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ไม่แนะนำให้ฉีด Sculptra ในช่วงที่ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ผู้ที่มีโรคประจำตัวภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง เช่น โรค SLE (Systemic Lupus Erythematosus) หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับการทำลายภูมิคุ้มกัน
ผู้ที่ใช้ยาในกลุ่มกดภูมิคุ้มกัน อาจต้องพิจารณาเป็นพิเศษเนื่องจากผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
ผู้ที่มีประวัติแพ้ชนิดรุนแรง (Anaphylaxis) ควรแจ้งแพทย์หากเคยมีประวัติแพ้ชนิดรุนแรง
ข้อห้ามในการฉีด
ผู้ที่มีประวัติแพ้ส่วนประกอบของ Sculptra ได้แก่ Poly-L-lactic acid (PLLA), Carboxymethylcellulose (CMC), และ Non-pyrogenic mannitol
ผู้ที่มีการติดเชื้อที่ผิวหนังหรือมีการอักเสบในตำแหน่งที่จะทำการฉีด ควรรอให้การติดเชื้อหรืออาการอักเสบหายดีเสียก่อน
หากท่านมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรักษาหรือบริการของเรา แพทย์ประจำ Gable Clinic ยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ทาง inbox บน Facebook หรือผ่านทาง Line ได้เลยค่ะ คุณหมอจะตอบทุกคำถามด้วยตนเอง
Comments